อาหารอินเดียมีชื่อเสียงมายาวนานในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน ซึ่งได้มาจากเครื่องเทศหอมต่างๆ ประเทศไทยซึ่งมีวัฒนธรรมอาหารที่สดใส ก็ได้รับอิทธิพลจากเครื่องเทศเหล่านี้ และเกิดการผสมผสานรสชาติที่น่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ใช่การผสมผสานที่ชัดเจนเสมอไป แต่สามารถเห็นได้ในหลายๆ เมนูอาหารไทย ตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษ การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านอาหารระหว่างอินเดียและไทยได้ทำให้เกิดการผสมผสานทั้งในด้านเทคนิคการทำอาหารและส่วนผสม โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้เครื่องเทศ
หนึ่งในด้านที่โดดเด่นที่สุดที่อาหารอินเดียมีอิทธิพลต่อการทำอาหารไทยคือการใช้เครื่องเทศในแกง ทั้งอินเดียและไทยต่างก็เป็นที่รู้จักในเรื่องของแกงแม้ว่าแกงของทั้งสองประเทศจะมีลักษณะที่แตกต่างกันในเรื่องของการเตรียมและรสชาติ แต่มีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน คือการใช้เครื่องเทศที่หลากหลาย แกงอินเดียมักจะมีฐานจากหัวหอม มะเขือเทศ และเครื่องเทศหลายชนิด เช่น ยี่หร่า ผักชี ขมิ้น และการัมมาซาลา ขณะที่แกงไทยมักจะมีความเบากว่าและใช้นมมะพร้าวเป็นส่วนผสมหลัก พร้อมกับสมุนไพรสดและเครื่องเทศต่างๆ เช่น ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด
แม้ว่าจะแตกต่างกัน แต่การใช้เครื่องเทศในแกงของทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น ยี่หร่าและผักชีซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ใช้ในอาหารอินเดียก็มีอยู่ในพริกแกงของไทย การผสมผสานเหล่านี้เพิ่มความลึกและความอบอุ่นให้กับอาหาร ซึ่งสร้างรสชาติที่แปลกใหม่แต่น่าคุ้นเคย เมนูหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอาหารอินเดียในอาหารไทยอย่างชัดเจนคือ แกงมัสมั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในแกงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของไทย แกงมัสมั่นผสมผสานการใช้มะพร้าวน้ำหอม น้ำมะขามเปียก และเครื่องเทศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอินเดีย เช่น การัมมาซาลา ลูกจันทน์เทศ และอบเชย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเครื่องเทศจากอินเดียในอาหารไทย
อีกหนึ่งจุดที่เห็นอิทธิพลของอาหารอินเดียในอาหารไทยคือการใช้ถั่วและพืชตระกูลถั่ว อาหารอินเดียใช้ถั่วเลนทิล ถั่วชิกพี และพืชตระกูลถั่วอื่นๆ ในหลากหลายเมนู ทั้งแกงและซุป ในประเทศไทย เมนูต่างๆ เช่น แกงเขียวหวาน และ แกงเผ็ด ก็อาจมีการใช้ถั่วหรือถั่วเลนทิลในบางครั้ง เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่อุดมสมบูรณ์และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับอาหาร
นอกจากนี้ แนวคิดเรื่อง “โรตี” (ขนมปังแผ่น) จากอินเดียก็ได้มีที่ทางในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคใต้ที่มีการติดต่อทางการค้ากับอินเดียมาเป็นเวลานาน โรตี มักจะถูกเสิร์ฟพร้อมกับแกงหรือนำมาทานเป็นขนมขบเคี้ยวตามท้องถนน ซึ่งเป็นการเสริมรสชาติให้กับความเผ็ดร้อนและความเข้มข้นของแกงไทย
อาหารริมถนนของไทยก็มีความคล้ายคลึงกับอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติ อาหารทั้งสองประเภทนี้เน้นการใช้ผักสด สมุนไพร และธัญพืช และหลายเมนูของไทยก็เป็นมังสวิรัติ หรือสามารถทำเป็นมังสวิรัติได้โดยการงดเนื้อสัตว์ เครื่องเทศเช่น ขมิ้น ผักชี และพริกที่พบในทั้งอาหารอินเดียและอาหารไทยช่วยเพิ่มความร้อน รสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการให้กับอาหาร เมนูอย่าง ส้มตำ (สลัดมะละกอสไตล์ไทย) ใช้เครื่องเทศที่เป็นที่นิยมในอาหารอินเดีย เช่น ยี่หร่า กระเทียม และพริก
การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการทำอาหารระหว่างอินเดียและไทย รวมถึงการค้าขายและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดการผสมผสานของเครื่องเทศและรสชาติที่ยังคงส่งผลต่อวิธีการทำอาหารในทั้งสองประเทศจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่การใช้เครื่องเทศผสมผสานไปจนถึงการใส่สมุนไพรสดและผัก การมีอิทธิพลของอินเดียในอาหารไทยเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนและยังคงทำให้รสชาติของอาหารไทยมีความหลากหลายและมีความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร
